ราคา เป็นหนึ่งใน Marketing
mix ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ เนื่องจากส่งผลถึงรายได้
ปริมาณการขาย และ ต้นทุน สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการตั้งราคานั้นมีดังนี้
1. จุดประสงค์
ขององค์กร
2. ราคาที่ผู้ซื้อเต็มใจที่จะจ่าย
3. ต้นทุนการผลิต
และ การตลาด
4. การแข่งขันของผู้ผลิต
5. การเปลี่ยนแปลงในหัวข้อที่
2,
3, 4
สำหรับหัวข้อที่นำเสนอในครั้งนี้
จะเป็นการตั้งราคาในตลาดที่ไม่มีกเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม (Static
environment with no competition) ซึ่งราคา
จะขึ้นอยู่กับความเต็มใจที่จะจ่ายของผู้ซื้อเป็นหลัก
ซึ่งแสดงความสัมพันธ์ระหว่างราคา และ ปริมาณการซื้อ ตามสมการ ดั้งนี้
Q = a
– b*P
โดยที่
Q
= ปริมาณการขาย
P
= ราคาขาย
a
= ค่าคงที่เมื่อปริมาณการขายเท่ากับ 0
b
= ค่าความชันของเส้น Demand curve
กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาขายนั้น
จะมีผลต่อรายได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ ความขันของเส้น Demand
curve
ถ้าความชั้นมีค่า เป็น ลบ (-) รายได้จะเพิ่มขึ้น
ถ้าความชั้นมีค่า เป็น บวก (+) รายได้จะลดลง
กรณีที่ ราคาที่ผู้ซื้อยอมจ่ายที่แตกต่างกัน
ส่วนใหญ่จะทำการแบ่งราคาเป็นหลายระดับ (Price discrimination) โดยแบ่งราคาดังนี้
1. Quantity
Discount
2. Two-part
tariff
3. Block
tariff
โดยสรุปเป็น Framework
ที่ได้จากเรื่อง ราคา นั้นข้าพเจ้าสรุปได้ดังนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น